ซีรีส์เกาหลีรอมคอมที่นำแสดงโดยอันฮโยซอบ คิมเซจอง คิมมินกยู และซอลอินอา เป็นรายการโทรทัศน์หมวดที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของ Netflix เป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
พัคซอนโฮพยายามหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิดเมื่อต้องกำกับละครที่มีเนื้อหาจำเจ (Cliches) ในฐานะผู้กำกับละครโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องล่าสุดของเกาหลีใต้ Business Proposal ที่สร้างจากเว็บตูนยอดนิยมในชื่อเดียวกัน เขายึดหลักการที่ว่า “สิ่งที่คุณคุ้นเคยให้ผลลัพธ์ดีที่สุด” ดังนั้น แทนที่จะบังคับตัวเองให้เปลี่ยนแนวหรือแต่งเติมเสริมเรื่องให้แตกต่าง เขากลับพยายามวาดภาพฉากที่คาดเดาได้ง่ายดายให้ออกมาอย่างที่เคยเป็นมา
แม้จะมีโครงเรื่องที่สามารถคาดเดาได้ง่าย ซึ่งนำพล็อตเรื่องแนวซินเดอเรลล่ามาผสมผสานกับสถานที่ทำงาน กลับสร้างอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่แก่แฟนละครเกาหลี Business Proposal ที่ฉายทาง Netflix ในหลายประเทศทั่วโลก สามารถขึ้นเป็นรายการหมวดที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษในอันดับ 1 ของ Netflix เป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันนับถึงสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นรายการ Netflix ที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก Bridgerton สองซีซั่นแรก
The Hollywood Reporter ได้พูดคุยกับผู้กำกับพัคซอนโฮเกี่ยวกับความสำเร็จระดับโลกจากผลงานกำกับล่าสุดของเขา และประสบการณ์ในการทำงานกับนักแสดงเกาหลีที่กำลังมีกระแสมาแรง
ที่มาของการกำกับ Business Proposal และความประทับใจแรกที่มีต่อเว็บตูนต้นฉบับ
ความประทับใจที่ผมได้จากการอ่านบทครั้งแรกนั้นยอดเยี่ยมมาก ผมรับข้อเสนอนี้เพราะตัวเองสามารถสนุกกับการกำกับละครเรื่องนี้ได้ หลังจากที่ตอบตกลง ผมก็ได้อ่านเว็บตูนต้นฉบับและรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ในที่ทำงานที่น่ารักและมีความแปลกใหม่ ผมคิดว่า 'นี่น่าจะเป็นผลงานที่ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินได้ทุกเมื่อด้วยความอุ่นใจ ไม่ทำให้รู้สึกหนักสมอง และเป็นการคลายความเครียดที่ดี' ผมจึงใส่ความประทับใจเหล่านั้นจากเว็บตูนต้นฉบับในการกำกับละครครับ
เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้ว่าทำไมแทมูจึงแยกแยะความแตกต่างระหว่างฮารีและคึมฮีไม่ได้ คุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรคะ ?
เป็นจุดที่ผมคิดหนักเลยครับ คิมเซจองต้องสลับบทบาทระหว่างฮารีและคึมฮีอยู่ตลอด ดังนั้น การแสดงของเธอจึงต้องแตกต่างกัน เธอต้องมีพื้นฐานการเป็นนักแสดงนำที่มีเสน่ห์ในละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ในขณะเดียวกันก็ต้องเปลี่ยนสไตล์การแสดงของเธอด้วย เราเปลี่ยนรูปลักษณ์ (Style) ของคึมฮีให้ชวนมองมากขึ้น แต่มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับโครงสร้างตัวละคร จึงต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเธอใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ผมสื่อสารกับคิมเซจองอย่างต่อเนื่อง เพื่อพูดคุยและรับความคิดเห็นจากเธอ โดยเฉพาะในรายละเอียดการแสดงและภาพลักษณ์โดยรวมของเธอ โดยพื้นฐานแล้ว เซจองต้องเตรียมตัวสำหรับการแสดงสองบทบาทแตกต่างกัน
ผมคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฮารี คึมฮี และแทมูจะพัฒนาไปอย่างไรเมื่อตัวละครได้พบกัน ผมพยายามทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นธรรมชาติและสมจริงมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่เราใส่ฉากที่ฮารีจงใจหลีกเลี่ยงการสบตากับแทมูในตอนแรกที่เธอพบเขาในที่ทำงาน นอกจากนี้ เรายังเพิ่มฉากเรียกเสียงหัวเราะอย่างฉากวิ่งไล่กันหลังจากฮารีทำรองเท้าแตะลอยไปโดนหน้าแทมู (ผมคิดว่าเป็นการล้อเลียนเรื่องราวของซินเดอเรลล่าที่สนุกสนานด้วย)
เรายังตั้งใจถ่ายทอดตัวละครฮารีให้เป็นพนักงานที่มีทักษะในการทำงานสูง โดยทำให้ตัวละครของเธอเป็นที่ชื่นชอบ แต่ในขณะเดียวกันก็เน้นความสามารถของเธอด้วย เราถ่ายทอดให้ผู้ชมเห็นว่าแทมูจะไม่สามารถจำได้ว่าฮารีและคึมฮีเป็นคนเดียวกัน เนื่องจากแทมูมีภาพจำและความประทับใจต่อฮารีในฐานะพนักงานที่มีความสามารถสูงนั่นเอง
ความประทับใจแรกต่ออันฮโยซอบและคิมเซจอง
ทั้ง 2 คนมีทัศนคติที่ดีต่องาน มีความเข้าใจตัวละครที่ได้รับบท และตั้งใจทำงานครับ ในฐานะผู้กำกับ ผมต้องการผลักดันให้พวกเขาเติบโตและก้าวหน้า เพื่อจะได้สร้างชื่อเสียงในฐานะนักแสดงดาวรุ่งได้ ทั้ง 2 คนน่ารักและทำงานได้ดีครับ
คิมเซจองเป็นอดีตสมาชิกของวงไอดอล K-Pop คุณมีความกังวลเกี่ยวกับประสบการณ์การแสดงของเธอหรือไม่คะ ?
ไม่เลยครับ ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก ผมกับผู้เขียนบทถึงกับตะลึงกับวิธีที่เซจองเตรียมตัวและตีความตัวละคร ผมรู้ว่าเธอมีความตั้งใจสูงมากที่จะพัฒนาตัวละคร เธอสมบูรณ์แบบสำหรับเราครับ เราได้พูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับอารมณ์และรูปลักษณ์ของตัวละคร เซจองเป็นนักแสดงที่ขยันและมีความสามารถครับ เธอยอดเยี่ยมมากเพราะเธอรู้วิธีดึงอารมณ์ของตัวเองออกมา
หลายคนอาจมีอคติต่อฝีมือการแสดงจากไอดอลนักแสดง และมักคิดว่าคนเหล่านี้อาจเป็นนักแสดงได้ไม่ดี แต่เมื่อไอดอลเข้าสู่วงการการแสดง ผมคิดว่าเราสามารถตัดสินพวกเขาได้จากผลงานก่อนหน้าครับ เราจะมองเห็นความเป็นไปได้ที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับพวกเขาในฐานะนักแสดง และขึ้นอยู่กับว่าทีมผู้ผลิตละครจะสามารถยกระดับความสามารถของเหล่าไอดอลนักแสดงได้หรือไม่
ช่วงเวลาที่น่าจดจำขณะถ่ายทำ
เวลาส่วนใหญ่ในกองถ่ายเป็นไปด้วยความสนุกสนานครับ แน่นอนว่ามีบางครั้งที่เราเหนื่อยหรือท้อบ้าง แต่ด้วยทีมงาน นักแสดง และบรรบากาศในกองถ่ายที่ดี ก็สามารถชดเชยความรู้สึกเหนื่อยไปได้ มีฉากที่ศิลปินดูโอ้ Melomance มาร่วมแสดงคอนเสิร์ตในละคร และคิมเซจองก็ขึ้นไปร้องเพลงกับศิลปินด้วยครับ
ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมทั่วโลกผ่าน Netflix คุณรับรู้ถึงกระแสตอบรับในต่างประเทศหรือไม่ คะ ? และคิดว่าเบื้องหลังความสำเร็จระดับโลกคืออะไร ?
แน่นอนว่าผมทราบดีครับ ผู้คนรอบตัวผมต่างสงสัยว่าความสำเร็จทาง Netflix ทั่วโลกนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมเองประหลาดใจจนไม่รู้จะตอบอย่างไรเลยครับ แฟน ๆ ทั่วโลกมาแสดงความคิดเห็นและส่งแรงสนับสนุนในอินสตาแกรมของผม ผมรู้สึกขอบคุณมากเสมอมาครับ
ละครมีพื้นฐานมาจากการเล่าเรื่อง หากถ่ายทอดเรื่องราวดีก็จะได้รับเสียงสะท้อนกลับจากผู้คนทั่วโลก ผมคิดว่านั่นเป็นความลับในความสำเร็จของ Business Proposal ครับ เราหยิบเอาเรื่องราวที่จำเจมาพลิกแพลงและปรับแต่งบางส่วน โดยการเล่าเรื่องที่เน้นรายละเอียดทางอารมณ์ การแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดง และความสามารถของทีมงานฝ่ายผลิตละครช่วยนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบที่สวยงาม เป็นความสำเร็จจากปัจจัยทั้งหมดนี้ร่วมกันครับ
ในตอนที่ 11 มีฉากเลิฟซีนระหว่างแทมูและฮารี บางคนมองว่าเป็นฉากที่เกิดขึ้นแบบไม่มีที่มาที่ไป คุณพอใจกับผลลัพธ์หรือไม่คะ ?
บางคนอาจคิดว่าเป็นฉากที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล เพราะแทมูและฮารีอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไร้เดียงสาแบบเด็กน้อย แต่จากมุมมองของการทำละคร ผมไม่ต้องการที่จะยึดติดให้พวกเขาอยู่ในความสัมพันธ์ที่ราบเรียบ เพราะตัวละครทั้ง 2 ตัวต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะทำสิ่งที่ผู้ใหญ่เองก็ทำเป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งฉากนั้นเกิดขึ้นหลังจากแทมูที่ตามหาฮารีด้วยความเหน็ดเหนื่อย และความรู้สึกของฮารีก็เหมือนกันกับแทมูครับ ผมรู้ว่าฉากนั้นอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน จึงรู้สึกว่ายังต้องเรียนรู้และปรับปรุงอะไรอีกมากครับ
ที่มา: แปลบางส่วนจากบทความโดย The Hollywood Reporter by Soomee Park
Comments